ผมพบเจอหนูและแมลงสาปมาตั้งแต่สมัย
พ.ศ.2553 สมัยผมเปิดร้านใหม่ๆ ผมเป็นคนเลยแต่กำเนิด เกิดและโตที่นี่
จึงมาทำมาหากินที่นี่ สมัยนั้นข้าวผมจานละ 20-25 บาทแค่นั้น
ข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่แพง ทำให้ร้านขายดีมาก ทำให้เวลาล้างจานและทิ้งขยะนั้นเยอะ
การกำจัดหนู จึงเป็นเรื่องที่ยากเพราะเศษอาหารที่นำไปทิ้งนั้นมันล้นถังขยะออกมา
พวกหนูมันจึงมากินเศษอาหารกันตอนดึกๆ แค่ถังขยะข้างนอกบ้านไม่พอ
มันลามเข้ามาถึงในตัวบ้าน ห้องครัว ห้องอาหาร ตู้เย็นมันยังกัดจนขอบบิ่นหมด
ร้านอาหารแถวนั้นพบเจอปัญหานี้กันหมด
จนบางคนอยู่ไม่ได้เพราะลูกค้าที่มากินอาหารที่ร้าน พบว่าทานแล้ว ท้องร่วง
สาเหตุก็มาจากความสกปรกของหนูที่มันไปกิน หมู เห็ด เป็ด ไก่ ในร้านนั่นเอง
ผมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะไล่มัน ผมเคยโทรเรียก บริษัทกำจัดหนู มา
แต่ก็ได้ผลแค่เดือน กว่า ๆ ไม่นาน หนูก็กลับมาเต็มไปหมดอีก จนไม่รู้จะทำอย่างไร
ผมลองทุกวิถีทางจนผมท้อ อยู่มาวันหนึ่ง มีพระท่านหนึ่งท่านเดินผ่านมาหน้าร้าน
วันนั้นเป็นวันที่ร้านหยุด ซึ่งผมกำลังเอากรงดักหนุที่ดักหนูได้ 3 ตัว ไปตีมันทิ้ง
พระท่านเห็นผม และท่านก็เลยพูดกับผมว่า ทำไมไม่พูดกับมันดีๆละโยม
มันจะได้ไม่เข้าไปในบ้านโยม หนูมันฉลาดนะโยม และท่านก็เดินจากไป ทำให้ผมงงๆ
คิดในใจว่าท่านคงพูดมาเล่นๆ
เพราะทุกคนก็คงรู้อยู่แล้วว่าการที่จะไปพูดกับเจ้าสัตว์อย่างหนู
คงไม่เกิดอะไรขึ้นมาอยู่แล้ว
พอตกกลางคืน คืนนั้นผมนอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม
เพราะต้องตื่นแต่เช้ามาเปิดร้าน ในขณะที่ผมกึ่งหลับกึ่งตื่น กำลังจะหลับ
ผมได้ยินเสียง แก๊ก ๆ จึงสะดุ้งตื่น
ผมหยิบไม้หน้าสามข้างเตียงขึ้นมา ในใจคิดว่าต้องเป็นโจรแน่ๆ จึงวิ่งเข้าไปในครัว
สิ่งที่พบคือหนุนับร้อยที่มารุมกินโต๊ะ ตู้เย็นที่ปิดไม่สนิทของผม พอพวกมันเห็นผม
มันวิ่งกันวงแตก บางตัวไม่วิ่ง ยังคงกินต่อไปเพราะความตะกละของมัน
ผมฟาดมันไส้แตกตายไปหลายตัวอยู่ เหตุการณ์วันนี้มันทำให้ผมคิด ว่า หนูกลัวอะไร จะมีอะไรที่มันกลัวไหม
เพราะผมเกลียดมันเหลือเกินมันทำให้กิจการที่ต้องดีกลับมาดับลงเพราะพวกมันเนี้ยแหละ
ไล่หนู
ไล่หนู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น